เนื่องจากการทำงานในกระบวนการ FinOps เป็นการทำงานแบบวนซ้ำไปเรื่อย ๆ จึงต้องมีการกำหนดรูปแบบการจัดลำดับความสำคัญ โดยจัดลำดับตาม “สิ่งที่ทำให้ธุรกิจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงสุด” หรือ “ลดต้นทุนได้มากที่สุด” นั่นเองโดยการที่จะระบุว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ให้พิจารณาโดยใช้หลักการ Pareto (Pareto Principle) หรือ กฎ 80/20 โดยเน้นไปที่เรื่องต้นทุน ค่าใช้จ่าย หรือปัญหาที่ทำให้เกิดข้อมูลที่แปลกออกไป ซึ่งจะให้ดี ให้เราเลือกพิจารณาต้นทุนรายการที่สูงที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วจะช่วยปรับปรุงต้นทุนโดยรวมได้มากที่สุด
เนื่องจากการทำงานในกระบวนการ FinOps เป็นการทำงานแบบวนซ้ำไปเรื่อย ๆ จึงต้องมีการกำหนดรูปแบบการจัดลำดับความสำคัญ โดยจัดลำดับตาม “สิ่งที่ทำให้ธุรกิจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงสุด” หรือ “ลดต้นทุนได้มากที่สุด” นั่นเอง
โดยการที่จะระบุว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ให้พิจารณาโดยใช้หลักการ Pareto (Pareto Principle) หรือ กฎ 80/20 โดยเน้นไปที่เรื่องต้นทุน ค่าใช้จ่าย หรือปัญหาที่ทำให้เกิดข้อมูลที่แปลกออกไป ซึ่งจะให้ดี ให้เราเลือกพิจารณาต้นทุนรายการที่สูงที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วจะช่วยปรับปรุงต้นทุนโดยรวมได้มากที่สุด
ให้ทีม FinOps พิจารณาแนวทางต่าง ๆ เพื่อที่จะเลือกแนวทางที่ดีที่สุดในการนำ FinOps Framework เข้ามาปรับใช้กับกระบวนการและโมเดลทางธุรกิจของคุณ โดยเมื่อคุณนำ FinOps Framework ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ ให้คำนึงเสมอว่าให้ดำเนินการตามหลักการหลัก (Key Principles) ของ Framework และคิดไว้ว่านี่คือ การวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เวลาปรับตัว ปรับใช้จนกระทั่งดำเนินงานได้สำเร็จ
การ Tradeoff หรือการแลกเปลี่ยน โดยต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งและเสียอย่างหนึ่งไป ของระบบคลาวด์ จะอยู่บนพื้นฐานที่เรียกว่า สามเหลี่ยมเหล็ก หรือ The Iron Triangle
ซึ่งการแลกเปลี่ยนทั้งหมดนี้ต้องทำเพื่อให้เกิดความสมดุลกับเป้าหมายของบริษัท เช่น คุณตัดสินใจว่าจะประหยัดค่าใช้จ่าย ก็จะได้คุณภาพและความเร็วระดับหนึ่ง หรืออาจจะยอมจ่ายมากขึ้น เพื่อให้ได้คุณภาพที่สูงขึ้น แต่ก็จะลดค่าใช้จ่ายได้น้อยลง